วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551

คำถาม 5 ข้อ

ทำวันที่ 26 มิถุนายน เวลา23.26 น.
1. คอมพิวเตอร์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง พร้อมรูปประกอบ
ตอบ มี 3 ประเภท

1. ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หมายถึง คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่นิยมใช้ทั่วไปในปัจจุบัน บางครั้งเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal coputer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้โดยง่าย ปกติจะมีผู้ใช้ครั้งละ 1 คนต่อ 1 เครื่อง ปัจจุบัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.1 กลุ่มพีซี (personal computer) ใช้งานทั่วไป เช่นพิมพ์เอกสาร จัดฐานข้อมูล ฯลฯ



1.2 กลุ่มแมคอินทอช (macintosh) ใช้เกี่ยวกับงานกราฟิค เป็นส่วนใหญ่

2. มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะปานกลาง ต่ำกว่าเมนเฟรมแต่ทำงานพร้อมกันได้หลายคน ต่อพ่วงกับเครื่องปลายทางได้น้อยกว่าเมนเฟรม มักใช้กับกิจกรรมขนาดย่อมเช่น กิจกรรมโรงแรม โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล สถานศึกษา โดยทั่วไปมินิคอมพิวเตอร์มีหน่วยความจำประมาณ 4 ล้านตัวอักษรขึ้นไป มีหน่วยความจำรอง 500 ล้านตัวอักษร และมีความเร็วในการทำงานประมาณไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคำสั่งต่อวินาที



3. เมนเฟรม (Mainframe) คือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงเป็นจำนวนมากเมนเฟรมคอมพิวเตอร์บางแห่งมีสถานีงาน (workstation) หรือ เครื่องปลายทาง (terminal) มากกว่า 10 แห่ง และมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในเวลาเดียวกันเป็นจำนวนมาก คอมพิวเตอร์ประเภทนี้มักจะใช้ในกิจการขนาดใหญ่ เช่นระดับกระทรวง เมนเฟรมส่วนใหญ่มีหน่วยความจำประมาณ 8 ล้านตัวอักษรขึ้นไปและมีหน่วยความจำรองประมาณ 1,000 ล้านตัวอักษรขึ้นไป นอกจากนี้ยังสามารถทำงานได้ด้วยความเร็วสูงประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคำสั่งต่อวินาที (MIPS) ขอบเขตของคอมพิวเตอร์แต่ละชนิดนั้นกำหนดได้ยากถ้าจะถือความสามารถของเครื่องเป็นขอบเขต ไมโครคอมพิวเตอร์สมัยปัจจุบันนี้ มีความสามารถมากกว่าเมนเฟรมสมัยเมื่อ 20 ปีก่อน ความสามารถสของมินิคอมพิวเตอร์สมัยนี้ ความสามารถของมินิคอมพิวเตอร์สมัยนี้อาจด้อยกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ในอนาคตก็ได้ ในปัจจุบันไมโครคอมพิวเตอร์เป็นที่นิยมและแพร่หลาย จนกระทั่งคำว่า"ไมโครคอมพิวเตอร์" เปลี่ยนมานิยมเรียกสั้น ๆ ว่า "คอมพิวเตอร์" ซึ่งหมายถึง "ไมโครคอมพิวเตอร์" นั่นเอง

Addresshttp://blog.hunsa.com/gracy6111/blog/5478

2. คอมพิวเตอร์แบบฝัง คืออะไร ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง พร้อมรูปภาพ
ตอบ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้มองไม่เห็น รูปลักษณ์ภายนอกว่าเป็นคอมพิวเตอร์
ใช้ประโยชน์ในงานเฉพาะด้าน เช่น เตาอบ ไมโครเวฟ ระบบเติม น้ำมัน นาฬิกาข้อมือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์เล่นเกม

Addresshttp://images.google.co.th/images?ndsp=20&um=1&hl=th&q=%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9D%E0%B8%B1%E0%B8%87&start=0&sa=N

3. ข้อมูลและสารสนเทศแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ ข้อมูล(data)และสารสนเทศ(Information) แตกต่างกัน ข้อมูลหมายถึงข้อเท็จจริง ที่ได้จากการเก็บข้อมูลจากเหตุการณ์ต่างๆ แต่สารสนเทศหมายถึง ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลเพื่อไปใช้ในการตัดสินใจต่อไป
เช่น ข้อมูล(data) นักเรียนโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย สตูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 มีจำนวน 150 คน
สารสนเทศ(Information) มีนักเรียนที่มาจากโรงเรียนอื่นๆ 20 คน เป็นนักเรียนเก่า 130 คน

Addresshttp://gotoknow.org/blog/potatoppp/30336

4. VLSI คืออะไร มีความสำคัญต่อคอมพิวเตอร์อย่างไร
ตอบ VLSI คือ ไมโครโปรเฟซเซอร์ตัวแรกของโลก มีหน่วยความจำสำรองขนาดใหญ่ขึ้น ย่อมาจาก Very Large Scale Integration Circuit
VLSI มีความสำคัญในการเพิ่มปริมาณวงจรหลายหมื่นวงจรบนแผ่นซิลิกอน
Addresshttp://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=soykere&id=478

5. นิสิตใช้คอมพิวเตอร์ในอะไรบ้าง ให้อธิบาย
ตอบ
ด้านนักศึกษา ด้านแผนการเรียน ด้านบุคลากร ด้านการเงิน และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์


ข้อมูลด้านนักศึกษา เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของนักศึกษาว่า เกิดเมื่อใด ที่ไหน ชื่อบิดามารดาอาชีพบิดามารดา เคยเรียนมาจากที่ไหนบ้าง เป็นต้นอีกส่วนหนึ่งเป็นประวัติการศึกษาในระหว่างศึกษาอยู่ ณ สถาบันนั้นๆ ว่าเคยลงทะเบียนเรียนวิชาอะไร ผลการศึกษาเป็นอย่างไรในแต่ละภาคการศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลดังกล่าวครบถ้วน ส่วนใหญ่เขาจะนิยมใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานลงทะเบียน


ข้อมูลด้านแผนการเรียน เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับวิชาที่เปิดสอนว่าแต่ละวิชามีรหัสชื่อวิชา หน่วยกิต เวลาเรียนและสอนที่ไหน และวิธีการสอนเป็นบรรยายหรือปฏิบัติการเป็นต้น


ข้อมูลด้านบุคลากร เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับครูผู้สอนว่ามีวุฒิอะไร มาจากที่ไหน เพศหญิงหรือเพศชาย สอนวิชาอะไรบ้าง กำลังทำวิจัยหรือเขียนตำราเรื่องอะไร และเงินเดือนเท่าใด เป็นต้น


ข้อมูลด้านการเงิน เป็นข้อมูลที่สถานการศึกษานั้นได้รับเงินจากอะไรบ้าง ได้ใช้เงินเหล่านั้นแต่ละเดือนเท่าไรใช้ซื้ออะไรบ้าง และยังเหลือเงินอยู่เป็นจำนวนเท่าใด เป็นต้น


ข้อมูลด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับอาคาร ห้องแต่ละห้องเป็นห้องปฏิบัติการหรือห้องบรรยาย ห้องพักนักศึกษา ห้องทำงาน ความจุของแต่ละห้องมีโต๊ะและเก้าอี้กี่ตัว ขนาดห้องกว้างและยาวเท่าใด และในแต่ละห้องมีอุปกรณ์เครื่องมืออะไรบ้าง เป็นต้น
Addresshttp://guru.sanook.com/search/knowledge_search.php?q=%A1%D2%C3%E3%AA%E9%A4%CD%C1%BE%D4%C7%E0%B5%CD%C3%EC%E3%B9%B4%E9%D2%B9%A1%D2%C3%C8%D6%A1%C9%D2&select=1

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551

ข่าวที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4012 (3212)

Linpus Linux Lite ในซับ-โน้ต

บุ๊กคอลัมน์ ไอทีทะลุโลก

โดย siripong@kidtalentz.com



ในงาน คอมมาร์ต เอ็กซ์เจน ที่เพิ่งผ่านไป โน้ตบุ๊กราคาถูกๆ ออกมาโชว์ตัวเรียกความสนใจกันหลายเจ้า พวกนี้ล้วนอาศัยระบบปฏิบัติการลีนุกซ์เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ถูกลงไปอีก ต่างสายพันธุ์กันไป สายพันธุ์ที่น่าสนใจเห็นจะเป็น Linpus Linux Lite ซึ่ง 2 ยี่ห้อใช้เหมือนกัน และสร้างความโดดเด่นให้กับงานทั้งคู่ หนึ่งนั้นคือ Aspire One จากค่ายเอเซอร์ ซึ่งอาจจะเพราะรูปลักษณ์ของเครื่อง ยี่ห้อ และการตลาด ในราคา 14,900 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนอีกยี่ห้อคือ MSI Wind U100 นี่ก็ใช้ Linpus เหมือนกัน ราคาแพงกว่าของ เอเซอร์ 99 บาท เป็นราคาจองทั้งคู่เพราะของยังไม่มา ดูจากสเป็กฮาร์ดแวร์แล้ว MSI Wind เหนือกว่าอยู่หลายส่วน ก็คงเสียเปรียบกันที่ยี่ห้อซึ่งคนไทยทั่วไปไม่ค่อยรู้จัก คำถามที่ถามกันค่อนข้างมากยิ่งกว่า ก็คือ Linpus Linux Lite นี่เป็นใครมาจากไหน ขออนุญาตนำข้อมูลมาขยายความให้เป็นที่รู้จักกันอีกสักหน่อย แม้จะยังไม่เคยทดสอบจากของจริงก็ตามLinpus Linux เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Fedora Linux ด้วยวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ โดยบริษัท Linpus Technology แห่งไต้หวันที่ เชี่ยวชาญลีนุกซ์โดยเฉพาะ พัฒนามันไปใช้กับแทบจะทุกเซ็กเตอร์ของคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์, เดสก์ทอป, แล็ปทอป ตลอดจนในตลาดเอ็มเบด และแฮนด์เฮลด์ทั้งหลาย ตลอดจน Linpus Linux Media Center ที่พัฒนาไว้ครบครันสำหรับมัลติมีเดียบนลีนุกซ์เริ่มพัฒนาลีนุกซ์ภาษาจีนออกมาลุยตั้งแต่ปี 2542 โน่น สร้างชื่อเสียงในการพัฒนาลีนุกซ์มาต่อเนื่อง จนกระทั่งปีที่แล้วเริ่มส่งลีนุกซ์สำหรับพีซีราคาถูกออกมาสู่ตลาดโลก โดยตลาดใหญ่ที่สุดของ Linpus อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และตามมาด้วยไลต์เวอร์ชั่นสำหรับ โน้ตบุ๊กราคาถูกที่ไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์สูงมาก เท่าที่เห็นนอกจากจุดเด่นให้ใช้งานได้ง่ายด้วยพื้นที่จำกัดของหน้าจอ ซึ่งโน้ตบุ๊ก ราคาถูกหรือเน็ตบุ๊กทั้งหลายต่างก็เน้นด้วยกันทั้งนั้น Linpus Linux Lite ยังเด่นอีกจุดก็คือการทำให้ส่วนติดต่อผู้ใช้งานมีสองโหมดด้วยกัน นั่นคือโหมดใช้งานง่ายที่คล้ายๆ กับสายพันธุ์อื่น นั่นคือการนำไอคอนของโปรแกรมใช้งานที่จำเป็นทั้งหมดมาเรียงกันอยู่บนหน้าจอให้เลือกคลิกเรียกใช้ได้ทันทีกับโหมดแอดวานซ์สำหรับผู้ใช้งานในระดับที่มีความรู้ หรือชำนาญการใช้งานอยู่พอสมควร ในโหมดหลังนี้บนหน้าจอก็จะคล้ายกับที่เราคุ้นเคยกันอยู่ทั่วๆ ไป เรียกใช้โปรแกรมจากการคลิกเมนูที่เก็บไว้ ทำให้หน้าจอโล่งขึ้นในแง่ของประสบการณ์ยาวนานและความเชี่ยวชาญลีนุกซ์ของ Linpus Technology จึงน่าจะรับประกันได้ชั้นหนึ่งแล้วว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการไม่ใช่ "เครื่องอะไรก็ไม่รู้" ทว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่พัฒนามานานให้พร้อมผู้ใช้งานและใช้งานง่ายที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการของราคาถูกคุณภาพดี

ข่าวที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี


วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4012 (3212)

แอปเปิ้ลผุดช็อปในมหา"ลัยทั่วปท. งัดโมเดล"U-Store"เจาะกลุ่มนักศึกษากำลังซื้อสูง


"แอปเปิ้ล" ปูพรมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 50 แห่งทั่ว ปท. ทั้งโมเดล iStudio, iBeat และล่าสุดเปิด "U-Store" บุกมหา"ลัยดัง เข้าถึงกลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่กำลังซื้อสูง ประเดิม มธ.-มช. และ ม.รังสิต ประกาศพร้อมเดินหน้าเจรจากับทุกสถาบันการศึกษาที่สนใจ เผยแนวโน้มการเติบโตยอดขายไปได้สวย ผู้บริโภคให้การตอบรับแบรนด์ "แอปเปิ้ล" มากขึ้น ขณะที่ข้อมูลยังไม่ชัด "ไอโฟน" มาเมืองไทยเมื่อไหร่
นายเทอดศักดิ์ สกุลยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันโมเดลช่องทางการจัดจำหน่ายของแอปเปิ้ลมี 3 รูปแบบ คือ iStudio, iBeat และ U-Store โดยในส่วนของ U-Store เป็นโมเดลใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น โดยขณะนี้ได้เปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต และที่มหาวิทยาลัยรังสิต และเร็วๆ นี้จะเปิดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตกแต่งสถานที่ "แอปเปิ้ลพร้อมที่เข้าไปในมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ขึ้นอยู่กับความพร้อมและมุมมองของมหาวิทยาลัยว่าไปในทิศทางเดียวกับเราหรือไม่ โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเจรจากับอีกหลายแห่ง เราไม่ได้หยุดแค่นี้แน่นอน"นายเทอดศักดิ์กล่าวว่า ตลาดการศึกษาถือว่าเป็นตลาดสำคัญของแอปเปิ้ลมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมานักศึกษาต้องออกมาซื้อที่รีเทลช็อปข้างนอก แต่ต่อไปนี้แอปเปิ้ลจะเข้าไปตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายถึงที่ เพราะโปรดักต์ของแอปเปิ้ลค่อนข้างชัดว่าเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการเรียนการสอน ทางมหาวิทยาลัยเห็นประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับจากการที่ให้บริษัทเข้าไปเปิดช็อป สำหรับ iStudio ปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น19 แห่ง จะเป็นช็อปที่เต็มรูปแบบที่สุด ซึ่งต้องเป็นตัวแทนระดับพรีเมี่ยม รีเซลเลอร์ (premiun reseller) เท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์ เพราะนอกจากจะมีสินค้าครบแล้ว ในแง่ของพนักงานขายก็ต้องมีความรู้มากเป็นพิเศษ ซึ่งในกรณีของตัวแทน iStudio จะมีเงื่อนไขค่อนข้างมาก แต่สำหรับ iBeat จะเป็นช็อปที่มีขนาดเล็กกว่า และสินค้าที่วางจำหน่ายน้อยกว่า โดยจะเลือกพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจไอทีเข้ามาช่วยในการทำตลาด ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 30 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด"คอนเซ็ปต์ U-Store และ iStudio ไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่ U-Store ก็เป็นช็อปที่เปิดในมหาวิทยาลัยเพื่อเจาะกลุ่มนักศึกษา โดยในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายก็จะมีการขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 3 โมเดลตามความเหมาะสมแต่ละทำเล ซึ่งตลาดของแอปเปิลในเมืองไทยก็มีการเติบโตและได้รับการตอบรับมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อมีสินค้าคอนซูเมอร์อย่างไอพอดและไอโฟน ก็ทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับ แบรนด์แอปเปิ้ลมากขึ้น" นายเทอดศักดิ์กล่าวและว่า ในกรณีของไอโฟนนั้นจะเข้ามาทำตลาดในเอเชียภายในปีนี้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยยังไม่มีความชัดเจนว่าเมื่อไหร่ โดยปัจจุบันสินค้าที่ทำรายได้หลักให้บริษัทก็คือ คอมพิวเตอร์แมคอินทอช ซึ่งมีทั้งกลุ่ม คอร์ปอเรตและคอนซูเมอร์ ด้านนางสาวพรเพ็ญ แก้วสุรพล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อี ไอ ที เอส โซลูชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายสินค้าของ แอปเปิ้ลมากว่า 10 ปี กล่าวว่า บริษัทได้เปิดร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์ U-Store ภายในมหาวิทยาลัยรังสิตเป็นครั้งแรก จากเดิมที่ทำตลาดเฉพาะคอร์ปอเรตขนาดใหญ่และสถาบันการศึกษาเท่านั้น โดยใช้งบฯลงทุนประมาณ 2 ล้านบาท โดยมีแอปเปิ้ลเป็น ผู้ช่วยเรื่องการตลาดและอนุมัติความเห็นชอบการทำกิจกรรมต่างๆ โดยภายในร้านจะจำหน่ายสินค้าจาก แอปเปิ้ลทุกชนิด และแอ็กเซสซอรี่ไอทีอื่นๆ พร้อมกับเป็นสถานที่ให้นักศึกษาสามารถทดลองใช้สินค้า หรือฝึกโปรแกรมต่างๆ ได้ ซึ่งอนาคตต้องการให้ U-Store เป็นศูนย์กลางด้านไอที ในการจัดเวิร์กช็อป หรือเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ โดยมี เจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้ข้อมูลด้านการใช้งานไอทีได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันราคาสินค้าที่ขายภายในร้านบางรุ่นจะเป็นราคาเพื่อการศึกษา โดยหากผู้ซื้อสินค้าโชว์บัตร น.ศ.สถาบันใดก็ตาม สามารถลดราคาได้ 10% "ที่เข้ามาเปิดร้านในมหาวิทยาลัย เพราะเดิมมีลูกค้าที่เป็นสถาบันการศึกษาอยู่แล้ว จึงทำให้ทั้งอาจารย์ นักศึกษา อยากซื้อสินค้าใช้เองบ้าง จึงหันมาเปิดร้านในมหาวิทยาลัย และนักศึกษา ม.รังสิตก็เป็น กลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยปัจจุบันคาดว่านักศึกษา ม.รังสิตประมาณ 20% ที่ใช้สินค้าของแอปเปิ้ลอยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องการขยายเพิ่มเป็น 50%" ปัจจุบันการเปิดร้านจำหน่ายสินค้า แอปเปิ้ลภายในมหาวิทยาลัยดังๆ ทั่วโลก จะใช้ชื่อ "Campus Store" และจะบริหารงานจากแอปเปิ้ลโดยตรง โดยให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยทำหน้าที่ช่วยเผยแพร่กิจกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของผู้ใช้เทคโนโลยีของแอปเปิ้ล นางสาวพรเพ็ญกล่าวว่า รูปแบบของร้าน U-Store และ i-Studio ไม่ต่างกัน เพราะเป็นตัวแทนจำหน่ายร้านรีเทลเหมือนกัน เพียงแต่ U-Store ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัย"U-Store จะมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนคือ นักศึกษา ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและยังได้ราคาพิเศษ ซึ่งการตั้งร้านในมหาวิทยาลัยมีข้อดีตรงที่ทุกๆ ปีจะมีลูกค้าใหม่ เพราะเด็กปี 1 เข้าเรียน ไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มเดิม ถึงแม้ว่ากลุ่มลูกค้าไม่กว้าง แต่สามารถโฟกัสเป้าหมายได้ชัดเจน ขณะเดียวกันการแข่งขันไม่สูงมากเหมือนร้านค้าทั่วไป แต่อาจจะมีช่วงเปิด-ปิดเทอมแทน" นางสาวพรเพ็ญกล่าวและว่าภาพรวมการจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ลพบว่า ตลาดโตขึ้นเพราะเทรนด์สินค้าใหม่ๆ มาแรง และการรับรู้ของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยน จากเดิมที่คิดว่าแอปเปิ้ลใช้ยาก แต่ตอนนี้คนเข้าใจมากขึ้น โดยสินค้าของแอปเปิ้ลที่ขายดีอันดับ 1 คือ Macbook ระดับราคา 4 หมื่นบาท อันดับ 2 Macbook Pro ราคา 6.5 หมื่นบาท และ i-Mac ราคาประมาณ 3.8 หมื่นบาท สำหรับปีนี้ อีไอทีเอส ตั้งเป้ายอดขายทั้งหมด 80 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากแอปเปิ้ล 80% จากยอดขายทั้งหมด จากปีที่ผ่านมามียอดขาย 60 ล้านบาท

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

รายงาน

รายงานวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์